เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการเจาะพื้นปูนและคอนกรีต
เคยสงสัยกันไหมว่าการเจาะพื้นปูนหรือคอนกรีตที่ดูเหมือนจะง่าย ๆ นั้น มีเทคนิคและรายละเอียดอะไรบ้างที่ต้องรู้ก่อนเจาะ? ตั้งแต่การเจาะติดตั้งของใช้ในบ้าน หรือ การเจาะใหญ่ ๆ เพื่อเปิดทางให้ระบบท่อน้ำหรือทางเดินไฟฟ้า งานเจาะเหล่านี้ล้วนสำคัญและต้องการวิธีการทำที่เหมาะสม
ประเภทของงานเจาะ
การเจาะพื้นปูนและคอนกรีต คือ การทำรูหรือตัดผ่านพื้นผิวที่แข็งแรงและหนาแน่น เพื่อรองรับงานระบบต่าง ๆ โดย ต้องเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะกับลักษณะของงาน
โดยทั่วไปแล้ว การเจาะ มักถูกแบ่งเป็น 2 วิธีหลัก ๆ ได้แก่ การเจาะแบบทั่วไป และ การเจาะคอริ่ง ซึ่งทั้งสองแบบมีข้อดีและข้อจำกัดที่ต่างกัน
การเจาะแบบทั่วไป
การเจาะแบบทั่วไป เป็นวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในงานติดตั้งขนาดเล็ก เพราะมันง่ายและไม่ซับซ้อนมาก เหมาะสำหรับการเจาะรูขนาดเล็ก
ข้อดี:
อุปกรณ์ที่ใช้งานหาได้ง่าย
ราคาประหยัด
เหมาะสำหรับงานเจาะเบื้องต้น
ข้อเสีย:
อาจไม่เหมาะสำหรับพื้นคอนกรีตที่มีความหนาหรือแข็งมาก ๆ
อาจทำให้ดอกสว่านเสียหายหรือส่งผลกระทบต่อโครงสร้าง
เทคนิคการเจาะรูด้วย Core Drilling
การเจาะคอริ่ง (Coring) เป็นวิธีเจาะที่ดูมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น โดยใช้หัวเจาะทรงกระบอก ทำให้ รูเจาะที่ได้มีความกลมและเรียบเนียน
ข้อดี:
ได้รูที่มีขนาดแม่นยำและเรียบเนียน
ลดผลกระทบต่อโครงสร้างโดยรอบ
ใช้ติดตั้งท่อน้ำ ท่อไฟ หรือเก็บตัวอย่างคอนกรีต
ข้อเสีย:
ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทางและต้องอาศัยประสบการณ์
ต้นทุนสูงกว่าการเจาะแบบทั่วไป
เปรียบเทียบการเจาะทั่วไปและการเจาะคอริ่ง
หัวข้อ
การเจาะทั่วไป
การเจาะคอริ่ง
เครื่องมือ
สว่านไฟฟ้า
เครื่องคอริ่งเฉพาะทาง
ขนาดของรู
เล็ก-ปานกลาง
ขนาดใหญ่ แม่นยำสูง
เหมาะสำหรับ
งานติดตั้งของใช้ทั่วไป
งานก่อสร้าง ติดตั้งระบบ
ผลกระทบต่อพื้นผิว
อาจเกิดรอยร้าว
ไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้าง
ต้นทุน
ต่ำ
สูงกว่าการเจาะธรรมดา
บทสรุป
การเจาะพื้นปูนอาจดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วมีรายละเอียดที่ต้องพิจารณา ถ้าต้องการแค่แขวนของหรือเจาะยึดอุปกรณ์ การใช้สว่านเจาะปูน ก็ เพียงพอต่อการใช้งาน แต่ถ้า ต้องการเจาะรูขนาดใหญ่ในพื้นปูน การเจาะคอริ่งคือทางเลือกที่ดีกว่า
สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกใช้เครื่องมือและวิธีการให้เหมาะสม เพื่อให้การเจาะพื้นปูนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ